มัดใจ Gen Z แบรนด์ยั่งยืนต้องมีอะไรมากกว่า Eco-friendly!

เมื่อพูดถึง แบรนด์ยั่งยืน ภาพจำของนักการตลาดหลายคน อาจยังติดอยู่กับถุงผ้า, หลอดกระดาษ, ฉลากรีไซเคิล หรือแคมเปญปลูกป่า แต่ถ้าแบรนด์กำลังทำการตลาดเพื่อพิชิตใจ ผู้บริโภคกลุ่มที่ทรงอิทธิพลที่สุดในขณะนี้อย่าง Gen Z สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่คำตอบ  

The BusinessSauce เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Z ค้นพบสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง จากแบรนด์ยั่งยืน ที่ต้องมีมากกว่าแค่ การตลาดสีเขียว (Green Marketing) แต่คือความจริงใจ ความโปร่งใส และจุดยืนทางสังคมที่ชัดเจน เพื่อสร้างกลยุทธ์ Sustainable Marketing ที่ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ได้ใจพวกเขาอย่างแท้จริง 

ถอดรหัสสิ่งที่ Gen Z มองหาในแบรนด์ยั่งยืน 

Gen Z คือเจเนอเรชันแรก ที่เติบโตมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตในมือ พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มหาศาล และมีเรดาร์ตรวจจับความไม่จริงใจ ที่ไวเป็นพิเศษ สิ่งนี้ทำให้มุมมองของ Gen Z กับความยั่งยืน แตกต่างจากคนรุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่เชื่อคำโฆษณา แต่เชื่อการกระทำ และมองว่าความยั่งยืนคือ ภาพรวมที่ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจ ไม่ใช่แค่กิจกรรมเพื่อสังคมที่จัดขึ้นปีละครั้ง 

จาก Planet สู่ People – ทำไมความยั่งยืนของ Gen Z ถึงครอบคลุมเรื่องความเท่าเทียมและสุขภาพจิต 

สำหรับคนรุ่นก่อน ความยั่งยืนอาจหมายถึง Planet หรือสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่สำหรับ Gen Z นิยามของมันได้ขยายไปสู่ People หรือผู้คน อย่างเต็มรูปแบบ พวกเขามองว่าโลกที่ยั่งยืนคือ โลกที่ผู้คนต้องอยู่ดีมีสุขด้วย 

  • ความหลากหลายและความเท่าเทียม (Diversity & Inclusion) แบรนด์ของคุณมีนายแบบนางแบบที่หลากหลายเชื้อชาติ สีผิว รูปร่าง หรือไม่? คุณปฏิบัติต่อพนักงานทุกเพศ อย่างเท่าเทียมกันหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้มีความสำคัญไม่แพ้คำถามว่า “คุณใช้พลาสติกรีไซเคิลหรือไม่?” 
  • จริยธรรมในห่วงโซ่อุปทาน (Ethical Supply Chain) เสื้อผ้าสวย ๆ ที่คุณขาย ผลิตมาจากโรงงาน ที่จ่ายค่าแรงที่เป็นธรรมและไม่มีการใช้แรงงานเด็กใช่ไหม? Gen Z พร้อมจะขุดข้อมูลเหล่านี้และแชร์ต่อใน TikTok หากพบว่าแบรนด์ที่รัก มีเบื้องหลังที่ไม่สวยงาม 
  • การสนับสนุนด้านสุขภาพจิต (Mental Health Support) Gen Z ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตอย่างมาก แบรนด์ที่แสดงออกถึงความเข้าใจ, จัดกิจกรรมที่ส่งเสริม Well-being, หรือมีนโยบายดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน จะได้รับการยอมรับและรู้สึกเชื่อมโยงได้ง่ายกว่า 

ดังนั้น แบรนด์ยั่งยืน ในสายตา Gen Z จึงต้องดูแลทั้ง “โลก” และ “คน” ไปพร้อม ๆ กัน 

แบรนด์จะสื่อสารเรื่องความยั่งยืนอย่างไรไม่ให้ถูก Gen Z จับได้ว่า Greenwashing 

“Greenwashing” หรือการฟอกเขียว คือการที่แบรนด์พยายามสร้างภาพลักษณ์ว่า รักษ์โลก แต่ไม่ได้ลงมือทำจริง และนี่คือสิ่งที่ Gen Z เกลียดที่สุด! เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะนี้ นักการตลาดต้องยึดหลัก “ความจริงใจคือราชา” 

โปร่งใส ไม่ใช่สมบูรณ์แบบ  แทนที่จะบอกว่า “เราเป็นแบรนด์ที่ดีพร้อม 100%” ลองเปลี่ยนเป็น “นี่คือเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราในปีนี้ เราทำสำเร็จไปแล้ว 70% และนี่คือ 30% ที่เรายังทำไม่ได้ และกำลังหาทางแก้ไข” ความซื่อสัตย์แบบนี้ สร้างความไว้วางใจได้มากกว่า 

โชว์ “เบื้องหลัง” ไม่ใช่แค่ “เบื้องหน้า”: ทำคอนเทนต์วิดีโอสั้น ๆ พาไปดูโรงงาน, สัมภาษณ์พนักงานในสายการผลิต, หรือเล่าเรื่องราวของเกษตรกรที่เป็นคู่ค้า การแสดงให้เห็นวิธีการ มีพลังกว่าแค่การป่าวประกาศผลลัพธ์ 

ใช้ข้อมูลจริง พิสูจน์ได้ หลีกเลี่ยงคำพูดกว้าง ๆ อย่าง “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” แต่ให้ใช้ข้อมูลที่จับต้องได้ เช่น “คอลเลกชันนี้ลดการใช้น้ำในการผลิตได้ 50,000 ลิตร เทียบเท่ากับการดื่มน้ำของคน 68 คนตลอดทั้งปี” 

3 แบรนด์ที่ Gen Z ชื่นชอบ และบทเรียนการตลาดที่นักการตลาดนำไปใช้ได้ 

  • Fenty Beauty แบรนด์ของ Rihanna ไม่ได้แค่ขายเครื่องสำอาง แต่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรม ด้วยการออกรองพื้น 40 เฉดสีตั้งแต่วันแรก เป็นการส่งสารที่ทรงพลังว่า “ความงามเป็นของทุกคน” นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการนำมิติ “S” (Social) ใน ESG มาใช้ได้อย่างน่าทึ่ง 

บทเรียน ความหลากหลายและความครอบคลุม (Inclusivity) ต้องเป็นรากฐานของแบรนด์ ไม่ใช่แคมเปญการตลาดชั่วคราว 

  • Patagonia แบรนด์ Outdoor ในตำนานที่ดำเนินธุรกิจด้วยปรัชญา “เราอยู่ในธุรกิจเพื่อปกป้องโลก” แคมเปญสุดโต่งอย่าง “Don’t Buy This Jacket” ที่กระตุ้นให้คนซ่อมเสื้อผ้าแทนการซื้อใหม่ คือสิ่งที่พิสูจน์ความจริงใจขั้นสุด และทำให้ Gen Z ยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจน 

บทเรียน เมื่อ Brand Purpose ของคุณแข็งแกร่งและจริงใจ คุณไม่จำเป็นต้องตามกระแส แต่สามารถสร้างกระแสของตัวเองได้ 

  • Duolingo อาจดูไม่เกี่ยวกับความยั่งยืนโดยตรง แต่ Duolingo คือตัวอย่างชั้นยอดของการสร้าง “Community” และสื่อสารอย่างจริงใจผ่าน TikTok บัญชีของพวกเขาไม่ได้เน้นขายคอร์สเรียน แต่เน้นสร้างคอนเทนต์ตลก ๆ ที่เข้าใจวัฒนธรรมของ Gen Z ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ 

บทเรียน การจะเข้าถึง Gen Z ได้ แบรนด์ต้องละทิ้งภาษาการตลาดแบบทางการ แล้วหันมาพูดภาษาเดียวกับพวกเขา 

5 สิ่งที่ Gen Z คาดหวังจาก แบรนด์ยั่งยืน ในยุคดิจิทัล 

  1. ความโปร่งใสแบบสุดขั้ว (Radical Transparency) เปิดเผยข้อมูลทั้งดีและไม่ดี อย่าปิดบัง 
  1. จุดยืนทางสังคมที่ชัดเจน (Actionable Social Stance) กล้าที่จะแสดงจุดยืนในประเด็นทางสังคมที่สำคัญ และต้องมีการกระทำสนับสนุน ไม่ใช่แค่โพสต์ 
  1. ความครอบคลุมคือพื้นฐาน (Inclusivity by Default) ทำให้ความหลากหลายเป็นเรื่องปกติ ในทุกการสื่อสารของแบรนด์ 
  1. การสื่อสารที่จริงใจ (Authentic Communication) เลิกใช้ภาษาการตลาดแบบหุ่นยนต์ หันมาใช้ภาษาที่มนุษย์คุยกัน 
  1. สร้างชุมชน ไม่ใช่แค่ขายของ (Community over Commerce) สร้างพื้นที่ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมและรู้สึกเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมกัน 

การทำการตลาดให้โดนใจ Gen Z ในเรื่องความยั่งยืน คือการเปลี่ยนมุมมอง จากการทำแคมเปญ ไปสู่การ สร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร เพราะคนรุ่นนี้ไม่ได้ซื้อแค่สินค้า แต่พวกเขากำลังลงทุน ในคุณค่าและอนาคตที่แบรนด์นั้นเป็นตัวแทน 

THE INSIGHT HUB

ก้าวนำหน้าคู่แข่งและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจก่อนใคร
ด้วยบทวิเคราะห์ เทรนด์ และกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ได้จริง
ส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ สมัครฟรี!

Latest stories

- Advertisement - spot_img

You might also like...