ในยุคที่การตลาดดิจิทัลหมุนเร็วจนตามแทบไม่ทัน การมาถึงของ Generative AI เปรียบเสมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับนักการตลาด แค่พิมพ์ Prompt หรือคำสั่งไม่กี่คำ ก็ได้ทั้งภาพประกอบคอนเทนต์สวย ๆ แคปชั่นโฆษณาคม ๆ หรือแม้กระทั่งบทความทั้งชิ้นภายในไม่กี่นาที ช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณไปมหาศาล
แต่ท่ามกลางความสะดวกสบายนี้ มี “กับดัก” ที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ นั่นคือประเด็นเรื่อง AI ลิขสิทธิ์ (Copyright) คำถามที่ว่า “ภาพนี้เอาไปใช้ได้จริงเหรอ?” หรือ “บทความนี้จะไปซ้ำกับของใครหรือเปล่า?” กลายเป็นความกังวลที่นักการตลาดหลายคนต้องเผชิญ
บทความจาก The BusinessSauce จะทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง ช่วยให้เข้าใจโลกของ ลิขสิทธิ์ภาพ AI และคอนเทนต์ต่าง ๆ จาก AI ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถนำพลังของ AI มาใช้ขับเคลื่อนการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสบายใจ
ข้อควรระวังในการนำภาพและข้อความ AI ไปใช้เชิงพาณิชย์
ก่อนจะกดดาวน์โหลดภาพสวย ๆ หรือก๊อบปี้ข้อความจาก AI ไปใช้งาน มาดูกันก่อนว่า มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง นี่คือวิธีใช้ภาพ AI ไม่ให้ผิดลิขสิทธิ์ และใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- อ่านข้อตกลงการใช้งาน (Terms of Service)
นี่คือข้อที่สำคัญที่สุด! แต่ละแพลตฟอร์ม AI (Midjourney, DALL-E, Canva AI ฯลฯ) มีกฎกติกาการใช้งานเชิงพาณิชย์ (Commercial Use) ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางเจ้าให้สิทธิ์เต็มที่เมื่อจ่ายเงิน แต่บางเจ้าอาจมีข้อจำกัดยิบย่อย เพราะฉะนั้นสละเวลาอ่านสักนิด เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว
- ระวังข้อมูลที่ใช้เทรนของ AI
AI สร้างภาพหรือข้อความขึ้นมาได้ เพราะเรียนรู้จากข้อมูลมหาศาลบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งในนั้นอาจมีภาพถ่าย บทความ หรือผลงานที่มีลิขสิทธิ์ปะปนอยู่ แม้ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่ชัดเจน แต่ก็เริ่มมีคดีฟ้องร้องบริษัท AI ฐานนำข้อมูลติดลิขสิทธิ์ ไปใช้เทรนโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จาก AI ก็อาจมีความเสี่ยงแฝงอยู่ได้
- Prompt ที่เราใช้ก็อาจสร้างปัญหาได้
การใส่ชื่อศิลปินดัง หรือชื่อตัวละคร/แบรนด์ที่มีลิขสิทธิ์ลงใน Prompt ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก แม้ AI จะสร้างภาพใหม่ขึ้นมา แต่ก็อาจเข้าข่ายการลอกเลียนแบบ “สไตล์” หรือ “เครื่องหมายการค้า” ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้
- ผลงานจาก AI แท้ ๆ ยังไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ (ในหลายประเทศ)
ตามแนวทางของสำนักงานลิขสิทธิ์แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Copyright Office) ผลงานที่สร้างโดย AI เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการสร้างสรรค์จากมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ จะไม่ได้รับความคุ้มครองทางลิขสิทธิ์ นั่นหมายความว่า ภาพที่สร้างขึ้นมา อาจไม่ใช่สิทธิ์ของคุณแต่เพียงผู้เดียว และคนอื่นก็อาจสร้างภาพที่คล้ายกันขึ้นมาใช้ได้เช่นกัน
เจาะลึกเงื่อนไขลิขสิทธิ์ของ AI แต่ละแพลตฟอร์ม
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น มาดูกันว่าแพลตฟอร์มยอดนิยมแต่ละเจ้า มีเงื่อนไขด้าน AI ลิขสิทธิ์อย่างไรบ้าง (ข้อมูลอัปเดต ณ ปลายปี 2023 – ต้นปี 2024)
ลิขสิทธิ์ Midjourney
- ผู้ใช้ฟรี (Free Trial) ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์เด็ดขาด! ผลงานที่สร้างขึ้น จะอยู่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons ซึ่งหมายความว่าคนอื่นนำไปใช้ต่อได้ แต่ต้องให้เครดิตและห้ามใช้เพื่อการค้า
- ผู้ใช้แบบเสียเงิน (Paid Subscribers) สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ Midjourney มอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในผลงานที่คุณสร้างขึ้น (ยกเว้นกรณีที่เป็นบริษัทที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จะต้องใช้แผน Pro หรือ Mega) สามารถนำภาพไปใช้ในงานโฆษณา, พิมพ์ขาย, หรือทำอะไรก็ได้ตามเงื่อนไขใน TOS (Terms of Service) หรือข้อกำหนดในการใช้บริการ
ลิขสิทธิ์ DALL-E 3 / ChatGPT Plus
- ผู้ใช้ผ่าน ChatGPT Plus, Team, Enterprise หรือผ่าน API OpenAI ระบุชัดเจนว่า ผู้ใช้เป็นเจ้าของผลงานที่สร้างขึ้น และสามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ขายหรือใช้ในโปรเจกต์ต่าง ๆ
- ความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือ OpenAI ผลักความรับผิดชอบมาให้ผู้ใช้ หมายความว่าหากภาพหรือข้อความที่สร้างขึ้นไป ละเมิดลิขสิทธิ์ของบุคคลที่สาม คุณคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ลิขสิทธิ์ Stable Diffusion
- โมเดล Open Source
Stable Diffusion มีความซับซ้อนกว่าเจ้าอื่น เพราะตัวโมเดลหลัก เป็นแบบโอเพนซอร์สที่ใคร ๆ ก็เอาไปใช้ได้ โดยทั่วไปแล้ว ภาพที่สร้างจากโมเดลพื้นฐาน จะไม่มีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ (Public Domain) และใช้เชิงพาณิชย์ได้
- แพลตฟอร์มที่ให้บริการแต่ต้องอ่าน TOS ของตัวกลาง
แต่! ถ้าใช้งาน Stable Diffusion ผ่านแพลตฟอร์มตัวกลางอย่าง DreamStudio หรือเว็บอื่น ๆ คุณต้องไปอ่าน TOS ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ เพราะเขาอาจมีกฎของตัวเองเพิ่มเติม
ลิขสิทธิ์ Canva AI (Text to Image)
- ผู้ใช้ทุกคน (ทั้งฟรีและ Pro)
Canva อนุญาตให้ผู้ใช้ นำภาพที่สร้างจาก AI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ภายใต้สัญญาอนุญาต “Canva Content License”
- ข้อจำกัด
สามารถใช้ภาพเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบได้ (เช่น ทำภาพโฆษณา, โพสต์ลงโซเชียล) แต่ไม่สามารถขายภาพ AI ที่สร้างขึ้นแบบเดี่ยว ๆ (Standalone) ได้ และ Canva ไม่ได้รับประกันว่าภาพของคุณจะไม่เหมือนกับของผู้ใช้คนอื่น
Checklist สำหรับนักการตลาดก่อนใช้ผลงานจาก AI
เพื่อความมั่นใจ ก่อนนำผลงานจาก AI ไปใช้ ลองถามตัวเองตาม Checklist นี้
- ใช้แพลตฟอร์มเวอร์ชันเสียเงินแล้วหรือยัง? (โดยเฉพาะ Midjourney)
- ได้อ่านและเข้าใจ Terms of Service ของแพลตฟอร์มนี้ใช่ไหม?
- Prompt ที่เราใช้ มีชื่อศิลปิน, ตัวละคร, หรือแบรนด์ที่ติดลิขสิทธิ์หรือไม่? (ถ้ามี ให้หลีกเลี่ยง)
- ภาพหรือข้อความที่ได้มา ดูคล้ายกับผลงานที่มีอยู่เดิมของใครหรือเปล่า? (ควรตรวจสอบคร่าว ๆ)
- ยอมรับความเสี่ยงได้หรือไม่ว่า ผลงานนี้อาจไม่มีลิขสิทธิ์คุ้มครองแต่เพียงผู้เดียว?
- ได้ปรับแต่งหรือใส่ความเป็นมนุษย์ เพิ่มเติมลงในผลงานแล้วหรือยัง? (เพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และลดความเสี่ยง)
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI กับลิขสิทธิ์
Q: ภาพที่สร้างจาก AI ใช้เชิงพาณิชย์ได้ไหม?
A: ส่วนใหญ่ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คำตอบขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ 1.แพลตฟอร์มที่ใช้ และ 2. แผนบริการที่คุณจ่ายเงิน ทางที่ดีที่สุดคือการสมัครใช้บริการแบบเสียเงินของแพลตฟอร์มนั้น ๆ และอ่านเงื่อนไขการใช้งานเชิงพาณิชย์ให้ละเอียด
Q: ต้องให้เครดิต AI หรือไม่?
A: ตามกฎหมายปัจจุบันยังไม่บังคับ แต่การให้เครดิต (เช่น “Image generated by Midjourney”) ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อความโปร่งใส และบางแพลตฟอร์มอาจ “แนะนำ” ให้ทำในข้อตกลงการใช้งาน การให้เครดิต ไม่ได้ช่วยให้พ้นจากความผิด หากภาพนั้นไปละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่น แต่แสดงถึงความรับผิดชอบของคุณ
Q: ใช้ ChatGPT เขียนบทความลงเว็บไซต์ ผิดลิขสิทธิ์ไหม?
A: ไม่ผิด ในประเด็นของ AI เขียนบทความ ลิขสิทธิ์ นั้น OpenAI มอบสิทธิ์ในผลงานให้แก่ผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ 1.เนื้อหาอาจไปคล้ายคลึงกับข้อมูลที่มีอยู่เดิมบนอินเทอร์เน็ต (เสี่ยงต่อการถูกมองว่าคัดลอก) 2. ข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง 100% ดังนั้น แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคือ ใช้ AI เป็น “ผู้ช่วย” ในการร่างโครงสร้างหรือหาไอเดีย แล้วนำมาเรียบเรียง ตรวจสอบข้อมูล และปรับแก้ด้วยสไตล์ของตัวเองเสมอ
AI คือเครื่องมือปฏิวัติวงการตลาด ที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้าน AI กับลิขสิทธิ์ ที่ไม่อาจมองข้ามได้ หัวใจสำคัญสำหรับนักการตลาด คือการใช้งานอย่างรอบคอบและมีข้อมูล
จำไว้เสมอว่าการจ่ายเงินเพื่อใช้บริการแผนพรีเมียม และการสละเวลาอ่าน Terms of Service คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และช่วยให้สามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ผ่าน AI ได้อย่างเต็มที่และสบายใจในระยะยาว