ในยุคที่การแข่งขันสูง นักการตลาดทุกคนต่างก็มองหาวิธีเพิ่ม Productivity และเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดกันทั้งนั้น เพราะแต่ละวันมีงานล้านแปดอย่าง ตั้งแต่คิดคอนเทนต์ ตอบลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงวางแผนแคมเปญใหม่ ๆ จนแทบไม่มีเวลาหายใจ จะดีแค่ไหน? ถ้ามีผู้ช่วยส่วนตัวที่ฉลาดล้ำ ทำงานได้ 24 ชั่วโมง และพร้อมช่วยจัดการงานน่าเบื่อให้เสร็จในพริบตา
Business Sauce จะมาแชร์ 5 วิธีใช้ ChatGPT การตลาด และ Gemini ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับนักการตลาด ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานไปตลอดกาล และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณทำงานไวขึ้น 10 เท่า และมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่าจริง ๆ ได้เลย
1. สร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพสูงในเวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วย AI
งานเขียนคอนเทนต์คือหัวใจของการตลาด แต่ก็เป็นงานที่กินเวลามากที่สุดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบทความบล็อก, บทความ SEO, หรือสคริปต์วิดีโอ การนั่งจ้องหน้ากระดาษเปล่า ๆ เป็นชั่วโมง คือฝันร้ายของนักการตลาดหลายคน แต่ AI จะเปลี่ยนฝันร้ายให้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ
การใช้ ChatGPT เขียนบทความ SEO ไม่ใช่แค่การสั่งให้เขียนแล้วจบ แต่คือการใช้ให้เป็นคู่คิดและผู้ช่วยร่างแรกชั้นดี ส่วน Gemini การตลาด ก็เก่งเรื่องการหาไอเดียที่สดใหม่ จากข้อมูลล่าสุดบนอินเทอร์เน็ต
How-to สร้าง Content Calendar สำหรับ 1 เดือน ใน 15 นาที
แทนที่จะนั่งเค้นหัวข้อทีละอัน ลองใช้ Prompt นี้กับ ChatGPT หรือ Gemini ดู
Prompt ตัวอย่าง
“ฉันเป็นนักการตลาดของแบรนด์ [ชื่อแบรนด์] ที่ขาย [สินค้า/บริการ เช่น กาแฟออร์แกนิก] กลุ่มเป้าหมายของฉันคือ [ระบุกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนทำงานออฟฟิศ อายุ 25-40 ปี รักสุขภาพ]
ช่วยสร้าง Content Calendar สำหรับ 1 เดือน สำหรับ Facebook และ Instagram ให้หน่อย โดยจัดทำเป็นตารางที่มีคอลัมน์
1. วัน/สัปดาห์
2. หัวข้อคอนเทนต์ (เน้นให้ความรู้, สร้างแรงบันดาลใจ, และขายของ สลับกันไป)
- รูปแบบ (เช่น รูปภาพ, วิดีโอสั้น, Carousel)
- คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA)”
ผลลัพธ์ที่ได้
- ลดเวลาการวางแผนและคิดคอนเทนต์ลงกว่า 80% จากที่เคยใช้เวลาเป็นวัน ๆ ในการวางแผน คุณจะได้โครงร่างทั้งหมดมาในเวลาไม่ถึง 15 นาที ทำให้มีเวลาไปลงลึก กับการสร้างสรรค์ชิ้นงานแต่ละชิ้นให้มีคุณภาพมากขึ้น
- ได้ไอเดียที่หลากหลาย AI จะช่วยคิดมุมมองใหม่ ๆ ที่คุณอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน
2. ระดมสมองคิดแคมเปญการตลาดที่เฉียบคมกว่าเดิม
เคยไหมที่ต้องประชุม Brainstorm เป็นชั่วโมง แต่กลับได้ไอเดียเดิม ๆ? การใช้ AI คิดแคมเปญการตลาด เปรียบเสมือนการมีทีม Creative Director มือดีหลายสิบคน มาช่วยคุณระดมสมองพร้อมกัน ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ไอเดียได้หลากหลาย ตั้งแต่สโลแกนเท่ๆ, ชื่อแคมเปญติดหู, ไปจนถึงกลยุทธ์การเปิดตัวสินค้าที่แปลกใหม่
How-to สร้างไอเดียแคมเปญจาก Persona ของลูกค้า
เพื่อให้ได้ไอเดียที่ตรงจุดที่สุด เราต้องเริ่มจากความเข้าใจลูกค้า ลองใช้ Prompt 2 ขั้นตอนนี้ดู
ขั้นตอนที่ 1 สร้าง Persona
“ช่วยสร้าง Customer Persona สำหรับสินค้า [ชื่อสินค้าของคุณ] โดยละเอียด ระบุข้อมูลด้านประชากรศาสตร์, ความสนใจ, ปัญหาที่พบเจอ (Pain Point), และเป้าหมายของเขา”
ขั้นตอนที่ 2 ขอไอเดียแคมเปญ
“จาก Persona ที่สร้างขึ้น ช่วยคิดไอเดียแคมเปญการตลาด 5 ไอเดียเพื่อโปรโมต [ชื่อสินค้า] ให้กับคนกลุ่มนี้หน่อย โดยแต่ละไอเดียให้มี
- ชื่อแคมเปญ
- Key Message (สาระสำคัญ)
- ช่องทางที่เหมาะสม (เช่น TikTok, Facebook, Email)”
ผลลัพธ์ที่ได้
- ได้ไอเดียที่หลากหลายและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น หมดปัญหาความคิดตัน AI จะเสนอไอเดียที่อิงจากข้อมูล Persona ทำให้แคมเปญของคุณ มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น
- ประหยัดเวลาการประชุม เปลี่ยนจากการประชุมเพื่อหาไอเดีย เป็นการประชุมเพื่อ “เลือก” และ “พัฒนาต่อยอด” ไอเดียที่ดีที่สุดจากที่ AI เสนอมา
3. วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและหา Insight ได้ในพริบตา
ข้อมูลคือขุมทรัพย์ของนักการตลาด แต่การจะต้องมานั่งงมข้อมูลจากรีพอร์ตยาว ๆ หรือคอมเมนต์ของลูกค้านับร้อยนับพัน ก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว เราสามารถใช้ AI สรุป Report การตลาด ที่ซับซ้อนให้กลายเป็นบทสรุปที่เข้าใจง่าย และที่สำคัญคือช่วยหา Customer Insight ที่ซ่อนอยู่ได้
How-to สรุป Report จาก Google Analytics ด้วย Gemini
(หมายเหตุ AI ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้โดยตรง ต้องคัดลอกและวางข้อมูลลงไปเอง)
- ไปที่ Report ใน Google Analytics (เช่น หน้า Top Landing Pages หรือ Audience Demographics)
- Export ข้อมูลออกมาเป็นไฟล์ CSV หรือคัดลอกตารางข้อมูล
- นำไปวางใน Gemini พร้อมใช้ Prompt นี้
Prompt ตัวอย่าง
“นี่คือข้อมูล [ระบุประเภทข้อมูล เช่น Top Landing Pages] จาก Google Analytics ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
[วางข้อมูลที่คุณคัดลอกมาที่นี่]
จากข้อมูลนี้ ช่วยสรุปประเด็นสำคัญ 3 ข้อ และให้คำแนะนำสำหรับนักการตลาด 3 ข้อว่าควรทำอะไรต่อไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ”
ผลลัพธ์ที่ได้
- ตัดสินใจจากข้อมูล (Data-driven Decision) ได้เร็วขึ้น แทนที่จะใช้เวลาเป็นชั่วโมง ในการทำความเข้าใจข้อมูล AI จะสรุปแนวโน้มและจุดที่น่าสนใจ ให้ในเวลาไม่กี่นาที
- ค้นพบโอกาสใหม่ๆ AI อาจมองเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูล ในแบบที่คาดไม่ถึง นำไปสู่การค้นพบ Insight ใหม่ ๆ ในการปรับปรุงการตลาด
4. บริหาร Social Media แบบมือโปร ไม่ต้องคิดแคปชั่นเอง
การคิดแคปชั่นให้ปังในทุก ๆ วันเป็นอีกหนึ่งงาน ที่สูบพลังงานนักการตลาดอย่างมหาศาล ลองมอบหมายงานนี้ให้ AI เขียนแคปชั่นโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok หรือ Twitter คุณจะได้แคปชั่นที่น่าสนใจ ปรับโทนเสียงได้ตามต้องการ พร้อมอิโมจิและแฮชแท็กเสร็จสรรพ
How-to สร้างชุดแคปชั่นสำหรับ 1 สัปดาห์ใน 10 นาที
Prompt ตัวอย่าง
“ช่วยเขียนแคปชั่นสำหรับโพสต์ลง Instagram จำนวน 5 แคปชั่น สำหรับโปรโมต [สินค้า/โปรโมชั่น เช่น คอลเลกชั่นเสื้อยืดลายใหม่]
- โพสต์ 1 เน้นการเปิดตัว สร้างความตื่นเต้น
- โพสต์ 2 เล่าเรื่องเบื้องหลังการออกแบบ
- โพสต์ 3 โชว์ฟีเจอร์เด่นของสินค้า
- โพสต์ 4 ใช้ User-Generated Content (รีวิวจากลูกค้า)
- โพสต์ 5 เป็นโพสต์กระตุ้นยอดขาย (Call to Action)
ขอโทนเสียงแบบ [ระบุโทนเสียง เช่น เป็นกันเอง, สนุกสนาน, หรือดูโปร] พร้อมใส่ Emoji และ Hashtag ที่เกี่ยวข้องให้ด้วย”
ผลลัพธ์ที่ได้
- มีเวลาไปสร้าง Engagement มากขึ้น เมื่อไม่ต้องเสียเวลาคิดแคปชั่น ก็จะมีเวลาไปโฟกัสกับการตอบคอมเมนต์, ตอบ DM, และสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ซึ่งเป็นงานที่ AI ทำแทนไม่ได้
- รักษาความสม่ำเสมอในการโพสต์ มีคอนเทนต์พร้อมโพสต์เสมอ ทำให้หน้าฟีดมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
5. ปั้น SEO ให้ติดอันดับง่ายขึ้นด้วยผู้ช่วย AI
การทำ SEO ด้วย ChatGPT ไม่ใช่แค่การเขียนบทความอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่นี่คือผู้ช่วยวิเคราะห์ SEO ที่ทรงพลัง คุณสามารถใช้เพื่อหา Keyword ด้วย AI, คิดโครงสร้างบทความที่ Google ชอบ, หรือแม้กระทั่งเขียน Meta Description ให้น่าคลิก
How-to หา Long-tail Keyword ที่คู่แข่งมองข้าม
Keyword ทั่วไปมีการแข่งขันสูง แต่ Long-tail Keyword (คีย์เวิร์ดแบบยาว) คือโอกาสทองของคุณ
Prompt ตัวอย่าง
“ฉันกำลังจะเขียนบทความ SEO เกี่ยวกับ [หัวข้อหลัก เช่น ‘วิธีเลือกโน้ตบุ๊กสำหรับทำงาน’]
ช่วยหา Long-tail Keyword และ Keyword แบบคำถาม ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้มา 20 คำหน่อย โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ตามความตั้งใจของผู้ค้นหา (Search Intent)”
ผลลัพธ์ที่ได้
- อันดับบน Google ดีขึ้นและได้ Organic Traffic เพิ่ม การเจาะกลุ่ม Long-tail Keyword ช่วยให้คุณติดอันดับได้ง่ายขึ้นใน Niche ของตัวเอง และดึงดูดผู้เข้าชมที่มีความตั้งใจในการซื้อหรือหาข้อมูลสูง
- เข้าใจลูกค้ามากขึ้น Keyword ที่ AI หามาให้ สะท้อนถึงปัญหาและคำถามที่คนค้นหาจริง ๆ ทำให้สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ตรงใจพวกเขามากขึ้น
AI คือผู้ช่วย ไม่ใช่คู่แข่ง
วิธีใช้ ChatGPT การตลาด และ Gemini ที่ Business Sauce นำเสนอไปทั้งหมดนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หัวใจสำคัญคือการมองว่า AI ไม่ได้จะมาแทนที่นักการตลาด แต่จะเข้ามาเป็น “ผู้ช่วย” ที่ทรงพลังที่สุด เท่าที่เคยมีมา เพื่อปลดล็อกเวลาของคุณจากงานซ้ำ ๆ ซากๆ ให้ได้ไปใช้ความคิดสร้างสรรค์และวางกลยุทธ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ดีที่สุด ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วจะพบว่าการเพิ่ม Productivity ขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป